"เศรษฐา" ยัน "เงินดิจิทัล" ยังคงรัศมี 4 กม. หวังสร้างความแข็งแกร่งสถาบันครอบครัว
เมื่อเวลา 17.33 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งแรกของวัน โดยขอบคุณทุกความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาที่ให้คำแนะกับรัฐบาล ในการดำเนินนโยบายรัฐบาลจะยึดโยงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และประชาชนของรัฐบาลนี้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งคนเมือง คนต่างจังหวัด และคนทุกฐานะ รวมถึงข้าราชการอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันเพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าจะไม่แก้ไขหมวดหนึ่งและหมวดสอง
ครม.เศรษฐา แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันแรก 11 ก.ย. 2566
ซัดนโยบาย “เศรษฐา1” ไม่กล้าฝันใหญ่-ไร้เรือธง เหมือนคำอธิฐานขอพร
แถลงนโยบายรัฐบาล : จุลพันธ์ แจงโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ปัดเอื้อนายทุนใหญ่
ว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะดำรงไว้ซึ่งการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
ส่วนเรื่องการพักหนี้เกษตรกรทราบหรือไม่ว่า 9 ปี ที่ผ่านมามีการพักหนี้มาแล้วถึง 13 ครั้ง แม้หลายคนจะท้วงติงว่าการพักหนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน แต่เราตระหนักดีจึงมีมาตรการหลายอย่างเพื่อเพิ่มรายได้ เช่นการทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในเวลา 4 ปี ด้วยการใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ควบคู่ไปกับการพักหนี้ เพื่อทำให้เกษตรกรหายใจได้ลืมตาอ้าปากได้ เป็นช่วงที่ฟื้นฟูตัวเองและมีกำลังใจในการแก้ไขปัญหา ประกอบอาชีพอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี ซึ่งการพักหนี้ครั้งนี้จะทำประโยชน์มากกว่าการพักหนี้ในอดีต 9 ปีที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องระยะ 4 กิโลเมตร ของนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเราตระหนักดีว่าชนบทอาจจะมีร้านค้าไม่เพียงพอ จึงขอไปดูรายละเอียดและดำเนินงานให้เหมาะสมตามคำแนะนำของสมาชิก ขณะที่เรื่องระยะเวลาในการใช้ 6 เดือน เรื่องนี้จำเป็น เราต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดังนั้นระยะเวลาในการใช้เงินครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก
สำหรับกรณีที่มีบางคนบอกว่า อยากให้ยกเลิกการใช้รัศมี 4 กิโลเมตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเศรษฐกิจภูมิภาคต้องการการกระตุ้น ถ้าเกิดคนที่มีถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดใด ก็ควรกลับไปใช้ที่นั่น ซึ่งมีเวลาถึง 6 เดือน กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ทำให้สถาบันครอบครัวแข็งแกร่งขึ้น เพราะฉะนั้น 4 กิโลเมตร ตามบัตรประชาชนขอคงไว้ ยกเว้นบางเขตอาจจะต้องขยาย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า จะผลักดันให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว และรัฐบาลเรามีแผนหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นขอวีซ่าเข้ามาในประเทศไทยสำหรับบางประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ การท่องเที่ยวเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อนำเงินเข้ามาในประเทศทำให้ภาคท่องเที่ยวเติบโตอีกครั้ง ตั้งเป้าสร้างเงินรายได้ประมาณ 3 ล้านล้านบาทต่อปี
และมีคำถามเข้ามาเยอะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าก็สมควรได้รับการปรับโดยเร็วที่สุด ซึ่งเราตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เศรษฐกิจโตเฉลี่ยปีละ 5% ตลอด 4 ปี ซึ่งจะทำให้ค่าแรงขึ้นไปถึง 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน
ส่วนค่าพลังงานเป็นเรื่องที่พี่น้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นเรื่องที่เราตระหนักดีว่า การลดค่าใช้จ่ายของพลังงานเป็นเรื่องสำคัญ เราก็มั่นใจว่าสามารถทำให้ราคาพลังงานต่ำลงอย่างมีนัยยะได้ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนยังคงมีอยู่
ส่วนเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ที่จะต้องจัดสรรเพื่อให้ประชาชนสามารถมีที่ดินทำมาหากินได้ จะต้องดูทั้งที่ดิน ส.ปก. และที่ดินของหน่วยงานรัฐอื่นๆผ่านรูปแบบที่เหมาะสม ทำให้พี่น้องมีที่ดินทำกินอย่างมีศักดิ์ศรี
สำหรับเรื่องน้ำใน EECนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะต้องดูแลอย่างเหมาะสมทุกมิติ การบริหารจัดการเรื่องน้ำให้มีความเหมาะสมระหว่างภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม การอุปโภคบริโภค และรักษาไว้ซึ่งความสมดุลย์ของระบบนิเวศ
ขณะที่ การแก้ปัญหาฝุ่นPM 2.5 นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อีก 5 เดือนก็จะเข้าสู่วิกฤตของภาคเหนือเราจะเริ่มทำโดยเร็ว ให้เห็นผลภายในต้นปี ดำเนินการส่วนที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากแล้วค่อยๆพัฒนาเรื่องอื่นตามขีดจำกัดของงบประมาณที่ทำได้
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะทิ้งท้ายเรื่องแก้ปัญหาการทุจริต โดยยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องโปร่งใส จะเอาระบบดิจิตทัลมาใช้ให้มากขึ้นเพื่อลดการทุจริต ประพฤติมิชอบ
ประกาศแจ้งจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด "เข้าบัญชี 18 ก.ย.2566" แน่นอน
ส่องสีใหม่ "iPhone 15" และ "iPhone 15 Pro" ก่อนเปิดตัวกันยายนนี้
ประกาศรายชื่อวอลเลย์บอลหญิงไทย "นุศรา" นำทัพชุดลุยศึกคัดโอลิมปิก 2024